มวดำมีดวงตาสีเหลืองส้มตัดกับสีขนของมันอย่างชัดเจน ถ้าพูดถึงแมวดำในสมัยก่อนมักจะมีแต่คนกลัวเพราะคำโบราณที่ว่าแมวดำข้ามศพกันใช่ไหมคะ แต่ผิดกับสมัยนี้ที่หลายคนนิยมชอบเลี้ยงแมวดำ เพราะเวลาเล่นกับมันนี่ทำให้นึกถึงก้อนขนสีดำที่มีตาโผล่ น่าร้ากกดีค่ะ
เป็นแมวที่เกิดขึ้นจากการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติซึ่งพบได้มากที่ฝรั่งเศส ย้อนไปในศตวรรษที่ 18 แมวพันธุ์นี้ถูกเลี้ยงดูโดยพระสงฆ์ชื่อ Carthusian และพระราชวงศ์ในฝรั่งเศสได้เลี้ยงเจ้าชาร์เทรอนี้ไว้ขับไล่หนู จนในปี 1987 แมวพันะุ์นี้ได้แพร่หลายเข้ามาในสหรัฐอเมริกา
- ถิ่นกำเนิด ฝรั่งเศส
- ลักษณะ เป็นแมวขนาดใหญ่ ขนสั้น สีออกเทา รูปร่างป้อม หัวจะกว้าง แก้มใหญ่ ใบหูจะมีลักษณะตั้งขอบกลม มีจมูกสั้น มีดวงตามีลักษณะกลมโต สีของดวงตาของชาร์เทรอจะเป็นสีเหลืองอำพัน เป็นแมวที่มีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว แมวพันธุ์นี้จะมีลักษณะคล้ายกับแมว British shorthair blue มาก ๆ จนแทบแยกกันไม่ออกเลยค่ะ
- อุปนิสัย เป็นแมวที่ร่าเริง ใจดี เรียบร้อย ไม่ชอบเสียงดังและไมค่อยโววายเสียดังอีกด้วย ชอบที่จะเล่นกับเด็กๆ และมีความฉลาดและสอนได้ง่ายค่ะ
- การดูแล แมวพันธุ์นี้ส่วนใหญ่มักมีสุขภาพที่ดีค่ะแต่ต้องระวังว่าแมวพันธุ์นี้มีแนวโน้มเป็นโรคเกี่ยวกับไตได้ การดูแลเรื่องขนของมันก็ง่ายมากไม่จำเป็นต้องแปรงขน แมวพันธุ์นี้จะมีการผลัดขนปีละสองครั้งเพราะฉะนั้นช่วงนี้ขนอาจจะฟุ้งกระจายหน่อยนะคะ > < "
![]() |
ว่าไงพวกทาสสส ไปเอาปลามาถูหลังชั้นสิ !!! |
จะว่าไปแล้วที่กล่าวไปในข้างต้นว่าเป็นแมวดำแต่จริง ๆ มันกลับมีสีน้ำเงิน (blue) นะคะ แต่เชื่อว่าหลายคนมองว่าสีมันออกเทา ๆ ดำ ๆ สะมากกว่า แมวพันธุ์นี้ถือว่ายังไม่ค่อยแพร่หลายในไทย ถ้าจะมีก็อาจจะพบเห็นได้ตามคาเฟ่แมวนะคะ ราคาตกอยู่ที่ 4500 บาทขึ้นไปค่ะ
ปล. มีหลายความเห็นถามเข้ามามากนะคะว่าแมวพันธุ์นี้พันธุ์นั้นซื้อที่ไหนต้องบอกก่อนนะคะว่าไม่ทราบจริง ๆ ค่ะเป็นเพียงผู้ที่ชอบอ่านบทความแล้วนำมาแปลให้ผู้อื่นได้ติดตามนะคะ แฮะๆๆ - -
ปล. มีหลายความเห็นถามเข้ามามากนะคะว่าแมวพันธุ์นี้พันธุ์นั้นซื้อที่ไหนต้องบอกก่อนนะคะว่าไม่ทราบจริง ๆ ค่ะเป็นเพียงผู้ที่ชอบอ่านบทความแล้วนำมาแปลให้ผู้อื่นได้ติดตามนะคะ แฮะๆๆ - -
วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556
แมวทราย (sand cat)
แมวทราย (Sand cat)
สำหรับคำจำกัดความย่อ ๆ ของแมวทราย (Sand cat) นั้นกล่าวได้ว่าเป็นแมวป่าขนาดเล็กกระจายอยู่ตามทะเลทรายแอฟริกาและเอเชีย มีขนาดลำตัวยาว 39-57 เซนติเมตร หนัก 1.4-3.4 กิโลกรัม มีขนยาวที่เพิ่มขึ้นระหว่างนิ้วเท้า สามารถอาศัยอยู่ได้ในอุณภูมิตั้งแต่ -5 ถึง 52 องศาเซลเซียส สามารถอดน้ำได้เป็นเดือนโดยอาศัยน้ำที่อยู่ในอาหารเท่านั้น ได้ยินกันขนาดนี้แล้วก็คงอยากรู้ข้อมูลอย่างละเอียดแล้วใช่ไหมคะ
- ถิ่นที่อยู่อาศัย กระจายอยู่ทั่วไปตามทะเลทรายแอฟริกาและเอเชีย โดยพบมากในแถบทะเลทรายซาฮารา ทะเลทรายอราเบียน ทะเลทรายแถบอิหร่านและปากีสถาน
- สายพันธุ์ เป็นแมวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ชื่อเต็มของมันก็คือ Feris magarita เป็นสัตว์ตระกูลแมวชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย
- ลักษณะ แมวทรายเป็นที่มีขนาดเล็กที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ตัวผู้ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักเพียง 2.1-3.4 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียหนัก 1.4-3.1 กิโลกรัม ลำตัวสีน้ำตาลซีดจนถึงเทาอ่อน ขนแน่น หนานุ่ม บริเวณหลังเข้มขึ้นเล็กน้อย หน้าท้องซีดจาง มีลายริ้วจาง ๆ ตามลำตัวและขา มีเส้นสีน้ำตาลแดงพาดที่แก้มตั้งแต่หางตา ครึ่งล่างของหน้าและหน้าอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน ใบหูใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยมปลายเรียว สีน้ำตาลอมแดง ปลายหูสีดำ ใบหูอยู่ห่างกันและค่อนมาทางข้างหัว ปลายหางมีปล้องบาง ๆ หลายปล้อง ปลายหางสีดำ ใบหน้ากว้าง ดวงตาใหญ่ อุ้งตีนมีขนยาวหนาแน่นปกคลุม
- อุปนิสัย แมวทรายปีนป่ายและกระโดดไม่เก่ง แต่เป็นยอดนักขุด ทักษะการขุดมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีพในสถานที่ของแมวชนิดนี้ เพราะต้องใช้ในการขุดโพรงเพื่อพักผ่อนและหาเหยื่อ อุ้งเล็บไม่คมมากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะการอาศัยในทะเลทรายจึงไม่มีโอกาสได้ฝนเล็บบ่อยนัก เวลาเดินบนพื้นที่โล่ง จะเดินย่องต่ำ ๆ หูที่ใหญ่ช่วยในการค้นหาเสียงจากความเคลื่อนไหวอันแผ่วเบาได้เป็นอย่างดี เหยื่อของแมวทรายได้แก่ เจอร์บิล เจอร์บัว โวล กระต่ายป่า นก สัตว์เลื้อยคลาน และแมลง ศัตรูตามธรรมชาติได้แก่งูพิษ หมาจิ้งจอก และนกเค้าแมวขนาดใหญ่
- ทางชีววิทยา ในทะเลทรายซาฮารา ลูกแมวทรายมักเกิดในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ในเติร์กเมนิสถานลูกแมวเกิดในเดือนเมษายน ในปากีสถานมักเกิดในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่วนในแหล่งเพาะเลี้ยงไม่มีฤดูผสมพันธุ์ที่แน่นอนตั้งท้องนานประมาณ 60-69 วัน ออกลูกคราวละ 1-8 ตัว ปกติ 2-3 ตัว ออกลูกในโพรงหรือหลืบหิน ลูกแมวแรกเกิดหนัก 50-60 กรัม ลืมตาได้เมื่ออายุได้สองสัปดาห์ ลูกแมวทรายพัฒนาเร็วมาก หลังจากเกิดก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 12 กรัม เริ่มออกจากรังได้เมื่ออายุได้ 3-4 สัปดาห์ กินอาหารแข็งได้เมื่ออายุได้ 5 สัปดาห์ เมื่ออายุได้ 3-4 เดือนก็แยกจากแม่ไปหากินเองได้แล้ว และจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ได้เมื่ออายุได้ 9-14 เดือน ในแหล่งเพาะเลี้ยงมีอายุได้ถึง 13 ปีแมวทรายจัดว่าเป็นสัตว์ที่หายาก และไม่ค่อยพบการนำมาเลี้ยง แต่ความหายากของมันก็ไม่ได้หมายความว่าแมวพันธุ์นี้จะสูญหายไปได้ง่าย เพราะการที่มันอยู่ในที่ทุรกันดารแช่นนี้จึงทำให้มันปลอดภัยจากอันตรายได้มากพอสมควร และคนท้องถิ่นยังมีความเชื่ออีกด้วยว่าแมวชนิดนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของศาสดามูฮัมเม็ดและลูกสาว จึงไม่ถูกล่าจากคนท้องถิ่น ถ้าอยากเห็นตัวจริงเชื่อว่าตามสวนสัตว์น่าจะมีให้เห็นอยู่นะคะขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก
วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
แมวสีสวาดหรือแมวโคราช (Korat cat)
แมวพันธุ์สีสวาด (Silver blue)
แมวสีสวาดหรือบางคนอาจเรียกว่าแมวโคราชเป็นที่นิยมเลี้ยงในไทยกันเป็นอย่างมากเพราะถือว่าเป็นแมวที่เป็นมงคลให้โชคลาภ อยากจะรู้จักกับแมวพันธุ์นี้ให้มากขึ้นไหมคะ งั้นมาศึกษากันเลย
- ถิ่นกำเนิด จากประเทศไทย พบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา(โคราช) ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่ามากมายหรือเป็นตำนานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมีหางหงิกงอมากเท่าไหร่จะมีโชคลาภมากเท่านั้น แต่คนไทยบางกลุ่มจะเรียกแมวโคราชว่า แมวสีสวาด
- ลักษณะ ลักษณะที่เป็นข้อเด่น- ลักษณะสีขน ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย- ลักษณะของส่วนหัว : หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน- ลักษณะของนัยน์ตา : นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน- ลักษณะของหาง หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัวคนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า แมวสีสวาดเป็นแมวนำโชคลาภของคนโคราช และคนเลี้ยงทั่ว ๆ ไป จะนำมาซึ่งความสุขสวัสดิมงคลแก่ผู้เลี้ยง แมวสีสวาดเคยประกวดชนะเลิศในระดับโลกมาแล้วในปี พ.ศ. 2503 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นแมวตัวเมียชื่อว่าสุนัน และเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศมาก จึงนับว่าแมวไทยได้ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยเป็นอันมากลักษณะที่เป็นข้อด้อยขนยาวเกินไป มีสีอื่นปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
- อุปนิสัย แมวโคราชมีนิสัยที่แตกต่างจากแมวสายพันธุ์อื่นอย่างเห็นได้ชัด แมวโคราชจะมีนิสัยค่อนข้างฉลาด จำแม่น ขี้ประจบ ถ้าหากเรานำแมวโคราชไปปล่อยในต่างสถานที่ แมวฯ สามารถที่จะกลับมาที่บ้านของตัวได้ มีนิสัยคล้ายสิงห์โต จะสร้างอาณาจักรของตัวเองโดยการฉี่รอบสถานที่อยู่อาศัย แมวต่างถิ่นที่เป็นตัวผู้จะไม่ให้กล้ำกลายเข้ามา ยกเว้นตัวเมีย ตัวเมียถ้าหากอยู่รวมกันเป็นฝูงจะแบ่งชั้นวรรณะกัน ถ้าหากเราให้อาหารรวมกัน ตัวที่เป็นจ่าฝูงจะกินอาหารก่อน และไล่รองลงมา แต่การเลี้ยงลูกกลับมีนิสัยเหมือนสิงห์โต ตัวเมืองจะช่วยกันเลี้ยงลูก แมวถึงแม้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง แม้แต่อาหารก็จะให้ลูกแมวกันก่อนแล้วค่อยกินทีหลัง แม่แมวจะฝึกลูกของตัวเองในการดำรงชีพ และป้องกันตัวโดยการสัตว์เล็กมาให้หยอกเล่นเป็นการฝึกการหาอาหารและป้องกันตัวเอง แมวโคราชมีนิสัยที่จะเจ้าของแม่นมาก ถ้าคนแปลกหน้าเข้ามาจะไม่ไว้วางใจหรืออาจจะขู่เลย แต่ถ้าเป็นเจ้าของจะวิ่งมาเคล้าแข้งเคล้าขา ประจบสอพลอ
- การดูแล แมวสีสวาด มีอายุขัยประมาณ 10-15 ปี ใกล้เคียงกับสุนัข และใช้เวลาการตั้งท้องประมาณ 63 วัน คลอดลูกครั้งละ 1-7 ตัว แต่ส่วนมากจะคลอดลูกประมาณ 4 ตัว สำหรับวิธีการเลี้ยงดูหากเลี้ยงที่บ้านปกติควรดูแลเรื่องการให้ยาถ่ายพยาธิและการฉีดวัคซีนมากเป็นพิเศษ โดยยาถ่ายพยาธิควรให้เป็นระยะ ๆ ประมาณ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง และฉีดวัคซีน 3 ชนิด ปีละ 1 ครั้ง ประกอบด้วย วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันหัดแมว และวัคซีนป้องกันลิวคีเมียร์(โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคที่นางเอกเกาหลีมักเป็นตอนจบ = ='') ซึ่งลิวคีเมียร์เป็นโรคแมว ลักษณะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง หากเป็นแล้วมักไม่มียารักษา จึงต้องฉีดยาป้องกันไว้ก่อน แค่นี้แมวสีสวาดก็จะมีอายุยืนยาวอยู่กับเราได้นาน ๆ
สำหรับราคาของเจ้าแมวโคราชหรือแมวสีสวาดก็เริ่มต้นที่ 2,000 บาทขึ้นไปและมีราคาสูงถึงหลักแสนเลยก็ว่าได้ เพราะคนไทยถือว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวมงคล ยิ่งมีลักษณะตรงตามตำราละก็ยิ่งทำให้ราคาสูงเข้าไปใหญ่ สำหรับใครสนใจแมวพันธุ์นี้ก็หามาเลี้ยงสักตัวนะคะ ถือว่ช่วยกันอนุรักษ์แมวไทยให้คงงอยู่ไปโดยไม่สูญหายกันด้วยค่ะ
วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
แมวสิงหะปุระ (Singapura cat)
แมวพันธุ์สิงหะปุระ (Singapura)
ฟังชื่อแล้วแมวพันธุ์นี้ดูไปคล้อง ๆ กับประเทศสิงคโปร์ใช่ไหมละคะ เป็นแมวสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนักในไทยเท่าไหร่ แล้วคุณทราบไหมว่าแมวสิงหปุระนั้นมีขนาดเล็กที่สุดในโลกสำหรับแมวพันธุ์แท้เลยนะ ว่าแต่แมวสิงหะปุระนี่มันเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์รึเปล่า และความน่ารักของมันนี่ขนาดไหนกัน ขอบอกว่าแมวพันธุ์นี้น่ารักสุด ๆ ไปรู้จักมันกันเลยดีกว่าค่ะ
- ถิ่นกำเนิด จากประเทศสิงคโปร์ ประเทศใกล้บ้านเรากันนี่แหละค่ะ เป็นแมวสายพันธุ์แท้ที่ได้ถูกนะมาพัฒนาในประเทศอเมริกาจนเป็นที่ยอมรับ
- ลักษณะ เป็นแมวที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาแมวสายพันธุ์แท้ทั้งหลาย แถมมันยังมีดวงตาและใบหูที่ใหญ่โตซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดูน่ารักมาก ๆ ลักษณะมันคล้ายกับแมวพันธุ์อะบิซิเนียนเลยนะคะ แต่ถ้าดูให้ดีแล้วมีเพียงหูที่ใหญ่เหมือนกันเท่านั้น นอกนั้นจะแตกต่างหมด สีขนของมันคือสี sepia agouti เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือสีน้ำตาลเข้มที่กระจายอยู่บนสีพื้นสีงาช้างตลอดด้านบนของลำตัว หางมีความยางปกติ แต่เท้าของมันมีขนาดเล็กกว่าแมวทั่วไป สีตาของแมวพันธุ์นี้มีทั้งสีน้ำตาลแดง สีเขียวหรือสีเหลือง
- อุปนิสัย เป็นแมวที่ชอบก่อกวนผู้คน เรียกว่ามันขี้เล่นสุด ๆ เลยคะ แถมขี้อ้อนชอบให้คนสนใจ บางครั้งก็ชอบมานั่งตักเพื่อเรียกร้องความสนใจ แถมมันยังขี้สงสัย เรียกว่าเป็นแมวที่ฉลาดและมีสัญชาตญาณของการเป็นผู้ล่าอย่างเต็มตัว เรียกว่าเหมาะกับคนที่ชอบเล่นซุกซนกับเจ้าแมว และต้องการมีเพื่อนรักเป็นสัตว์เลี้ยงมาก ๆ เลยคะ
- การดูแล แมวขนสั้นเรียกว่าแปรงขนก็ง่ายอยู่แล้วใช่ไหมคะ การเลี้ยงดูส่วนใหญ่ก็ง่ายเช่นกันค่ะ ส่วนเรื่องที่ต้องแนะนำเป็นพิเศษก็คือ มันเป็นแมวขี้เล่น มึความเป็นนักล่า ควรหาของเล่นไว้ให้มันเยอะ ๆ นะคะ และระวังเรื่องการขีดข่วนฟอร์นิเจอร์ของคุณด้วยมันออกจะซุกซนอะเนอะ
ราคาแมวพันธุ์สิงหะปุระถือวว่าสูงมาก ๆ นะคะเพราะจัดเป็นแมวหายากมีทั่วโลกกจำนวนน้อย แถมในไทยยิ่งมีน้อยไปใหญ่ คนไทยส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยรู้จักแต่ถ้าวันนี้คุณรู้จักกับมันแล้ว และชอบอยากจะซื้อมาเลี้ยงซํกตัวละก็ราคาขั้นต่ำน่าจะเริ่มที่ 60,000 บาทค่ะ สูงใช่ไหมละคะ แต่ถ้าใครเงินเหลือ ๆ อยากได้เจ้าแมวซุกซน ขี้เล่น แถมหน้าตาน่ารักขนาดนี้ละก็ซื้อเถอะค่ะ จะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน อิอิ ^ ^
วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
แมววิเชียรมาศ (Siamese cat)
แมวพันธุ์วิเชียรมาศ (Siamese)
จากครั้งที่แล้วพูดถึงแมวบาหลีกันไปแล้ว คราวนี้มารู้จักต้นกำเนิดของมันกันดีกว่าก็คือแมววิเชียรมาศอันสวยงามของไทยเรานี่เอง เป็นแมวไทยที่ดังมากในต่างประเทศ และถือเป็นต้นตำรับของการผสมพันธุ์แมวพันธุ์ใหม่ ๆ ด้วย เท่าที่รู้ ๆ ก็คือแมวบาหลีอย่างที่กล่าวไปและแมวหิมาลายันด้วยค่ะ
- ถิ่นกำเนิด ประเทศไทย เป็นแมวโบราณที่มักเลี้ยงไว้ในวังตั้งแต่สมัยอยุธยา เพราะเชื่อว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวมงคล มักกล่าวว่าแมวมงคลคนธรรมดาสามัญชนไม่สามารถเลี้ยงได้ เมื่อสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 แมวไทย 17ชนิดในพระราชวังของกรุงศรีอยุธา ได้ถูกพวกพม่า และเชลย ได้นำไปพม่า เพราะพม่าคิดว่า แมวไทยคือทรัพย์สินที่มีค่าชนิดนึงเนื่องจากแมวไทยในอยุธยาสามารถซื้อขายได้ถึง 1แสนตำลึงทอง หากใครมีแมวชนิดนี้จึงนำมาขายแก่วัง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้แมวไทยสูญพันธุ์ หลังจากนั้น แมววิเชียรมาศก็สาบสูญหายไปจากประเทศไทย ต่อมา สมเด็จพุฒาจารย์ พุทธสโร ได้ไปเที่ยวกรุงศรีอยุธยาร้าง แล้วไปเจอสมุดข่อยที่ไม่ถูกเผา จึงนำสมุดข่อยกลับมา แล้วให้คนไปไล่ต้อนจับแมววิเชียรมาศ จนได้แมววิเชียรมาศกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง
- ลักษณะ ลักษณะที่เป็นข้อเด่น
ลักษณะสีขน : ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด)
ลักษณะของส่วนหัว : รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว
ลักษณะของนัยน์ตา : ตามีสีฟ้า
ลักษณะของหาง : หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
ลักษณะที่เป็นข้อด้อย
ขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นๆ ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นเกินไป (เมื่อยืนขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว ) หางขอด หางหงิกงอ หางสดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
- อุปนิสัย มีความสวยสง่า ลักษณะปราดเปรียว และระแวดระวังภัยให้ตัวเองดี นิสัยรักสะอาด มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ค่อยชอบถูกบังคับหรือสั่งให้ทำนั่นทำนี่ แต่มีความเชื่องกับเจ้าของและรักเจ้าของ อาจจะไม่สนิทกับคนแปลกหน้าง่ายๆ คือไม่เข้าหาคนแปลกหน้า และอาจข่วนคนแปลกหน้าถ้าทำให้มันตกใจ แมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยผูกพันกับเจ้าของ รักบ้าน ชอบเดินสำรวจบริเวณบ้านและหาของบันเทิงใจได้เสมอกับสิ่งรอบตัว เช่น แมลงเล็กๆ
- การดูแล แมวไทยของเรามักเป็นแมวขนสั้นใช่ไหมคะ การแปรงขนก็ไม่ค่อยจำเป็นนักเพราะแมวพันธุ์นี้มักเลียขนทำความสะอาดเองอยู่แล้ว และอย่าอาบน้้ำให้มันนะคะเพราะว่าแมวพันธุ์นี้มักมีอาการป่วยเสมอ เป็นแมวที่ไม่ถูกกับน้ัำจริง ๆ เป็นแมวที่สุขภาพแข็งแรง เลี้ยงง่าย และมีอายุได้ถึง 15-20 ปี
ราคาแมววิเชียรมาศเริ่มต้นที่ 3,000 บาทขึ้นไป แมวพันธุ์นี้ถือเป็นที่ต้องการของใครหลายคนเพราะว่าตามตำราจัดว่าเป็นแมวมงคล
วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
แมวบาหลี (Balinese cat)
แมวพันธุ์บาหลี (Balinese)
แมวพันธุ์บาหลีจะว่าไปมันก็คล้าย ๆ แมวแร็กดอลล์กับแมววิเชียรมาศเหมือนกันนะ จะเหมือนอย่างไรนั้นก็ลองเข้าไปอ่านบล็อกอันเก่าที่ได้เขียนเอาไว้นะคะ ส่วนจุดที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือเจ้าแมวบาหลีนี่มันมีจุดเด่นอยู่ที่ดวงตาคู่สวยและใบหน้าของมัน
- ถิ่นกำเนิด ได้ยินชื่อว่าบาหลีหลายคนคงนึกว่ามาจากประเทศอินโดนีเซียหรือเปล่าแต่ไม่ใช่นะคะ มันเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ในอเมริกา
- สายพันธุ์ มาจากแมววิเชียรมาศ โดยเกิดมาจากการที่มนุษย์นำมาผสมพันธุ์เพื่อต้องการความงามของแมววิเชียรมาศแต่ต้องการขนที่ยาวด้วย เพราะปกติแมววิเชียรมาศจะขนสั้น ส่วนทำไมถึงต้องชื่อว่าพันธุ์บาหลีนั้นนะเหรอ เกิดจากการที่คนผสมพันธุ์เจ้าแมวพันธุ์นี้มองเห็นความสง่าและสวยงามเหมือนกับนักเต้นบาหลี และถ้าหากจะให้ตั้งชื่อว่า long-haired Siamese(แมววิเชียรมาศพันธุ์ขนยาว) ก็เป็นชื่อที่ดูยาวไปและดูไม่น่าจดจำนัก
- ลักษณะ เป็นแมวขนยาวนุ่ม รูปร่างผอมยาว หัวเป็นรูปลิ่ม ตาสีฟ้าสดใส หูตั้ง ศีรษะมีแผ่นรอยแต้มของสีเล็กๆเกิดขึ้น (ขนจะหดสั้น) มีสีทึบ และสีของมันที่เป็นที่ยอมรับมีเพียงสีที่เหมือนกับแมววิเชียรมาศเท่านั้นว่าเป็นแมวบาหลี เพราะแม้แมวจะมีสีอื่นด้วยแต่ไม่นับว่าเป็นแมวบาหลีนะคะ
- อุปนิสัย เหมือนกับแมววิเชียรมาศ เป็นแมวที่ค่อนข้างฉลาด ชอบที่จะเป็นจุดสนใจ ขี้เล่น มีเสียงร้องที่เบากว่าแมววิเชียรมาศ แมวบาหลีไม่ค่อยขีดข่วนเวลามันหงุดหงิดสักเท่าไหร่ แต่มันอาจจะครางหรือคำรามซะมากกว่า
- การดูแล แมวบาหลีมีอายุเฉลี่ยราว 13-15 ปี ขนของมันดูแลง่ายกว่าเจ้าเปอร์เซีย การแปรงขนหรือแปรงฟันนั้นแมวบาหลีมักจะยอมให้เจ้าของเป็นคสทำมากกว่าคนอื่น แมวบาหลีมักทำความสะอาดขนตัวเองอยู่เป็นประจำและเป็นแมวที่ค่อนข้างเนี๊ยบ แต่ถ้าหากมันไปเปลื้อนมาละก็คุณก็อาบน้ำให้มันด้วยน้ำยาสระขนอย่างอ่อนโยนได้
แมวบาหลีมีราคาตกอยูราว 2,500-3,000 บาทขึ้นไป ถือว่าไม่แพงเลยสำหรับคนที่อยากเลี้ยงแมวไทยแต่รักขนยาว ๆ ของแมว พันธุืนี้ตอบโจทย์ได้แน่นอนค่ะ
วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
แมวสฟิงซ์ (Sphynx cat)
แมวพันธุ์สฟิงซ์ (Sphynx)
แมวพันธุ์สฟิงซ์หลายคนรู้จักกันดีในฉายเจ้าแมวไร้ขน หรือหลายคนคงไปนึกถึงรูปปั้นที่หัวเป็นคนตัวเป็นสิงโตที่อียิปต์ไม่ใช่นะคะเราพูดถึงแมวกันอยู่ = = '' แมวพันธุ์นี้บางคนก็ว่าแมวประหลาดแต่บางคนกลับหลงรักเจ้าแมวพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก เพราะอะไรนะเหรอมาดูกันดีกว่า
- ถิ่นกำเนิด มีคนถกเถียงกันว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่มาจากอียิปต์หรือฮาวายกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือมันถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงครั้งแรกในแคนดา
- ลักษณะ หัวมีทรงคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม ตาสีอำพัน ลำตัวยาว ขายาวปานกลาง ผิวหนัง สีน้ำตาลขาว หรือดำขาว ขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้งลำตัว หาง ยาวปลายเรียว ถ้าพูดถึงขนของมันไม่มีค่ะ
- อุปนิสัย เป็นแมวที่มีความรักใคร่เป็นมิตรกับเจ้าของมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เชื่อฟังเจ้าของ มีท่าทีที่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าด้วย เรียกว่าเชื่องมาก ๆ แถมยังขี้อ้อน ขี้ประจบเจ้าของอีกต่างหาก ถ้ามันต้องหารความสนใจมันจะร้องด้วยเสียงเบา ๆ ของมัน แถมเสียงยังขาดหายเป็นจังหวะประมาณว่าเหมือนคนเสียงแหบ
- การดูแล แมวไร้ขนมีข้อดีเป็นอย่างยิ่งต่อการดูแล แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ต้องดูแลเลยนะคะ เพราะด้วยการไม่มีขนของมันผิวหนังมันจึงผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวเพ่ือปกป้องผิว จึงต้องการการอาบน้ำและดูแลอย่างเหมาะสมเพ่ือให้ผิวหนังของมันมีสุขภาพดี และถ้าคุณพามันไปออกแดดละก็ควรทาครีมกันแดดสำหรับผิวทารกด้วยนะคะ เพื่อปกป้องผิวหนังของมันจากการโดนทำร้ายจากแสงแดด
แมวสฟิงซ์ถือเป็นแมวที่เหมาะกับคนเป็นโรคภูมิแพ้ด้วย เพราะมันเป็นสัตว์ที่ไม่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ (Hypoallergenic) ในบรรดาแมว ๆ ทั้งหลายเลย แถมนิสัยของมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากแมวทั่วไปด้วยแต่ยังเป็นมิตรกว่าแมวทั่ว ๆ ไปเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นสำหรับคนรักแมวที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือคนที่กลัวเป็นภูมิแพ้ก็สามารถหามาเลี้ยงกันได้นะคะ
ราคาเจ้าแมวพันธุ์นี้ก็ไม่เบานะคะ 20,000 บาทขึ้นไปกันเลยทีเดียว แหม่ ๆ เห็นมันหน้าตาแปลก ๆ อย่างนี้ราคาสูงใช้ได้นะคะ คนมีอันจะกินก็นิยมเลี้ยงกันด้วยละค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น